ทำไมต้องกินข้าวไรซ์เบอร์รี่? คุณสมบัติที่โดดเด่นของ "ข้าวไรซ์เบอร์รี่" คือมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ โอเมก้า 3, ธาตุสังกะสี, ธาตุเหล็ก, วิตามินอี, วิตามินบี 1,
เบต้าแคโรทีน, ลูทีน, โพลิฟีนอล, แทนนินและแกมมา
นอกจากนี้รำข้าวและน้ำมันรำข้าวยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดีเหมาะสำหรับใช้ทำผลิตภัณฑ์อาหารเชิงบำบัดอีกด้วย
สารอาหารที่สำคัญที่อยู่ในข้าวไรซ์เบอร์รีประกอบด้วย
- โอเมก้า 3 มีอยู่ 25.51 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมซึ่งเป็นกรดไขมันมีส่วนสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับและระบบประสาท ลดระดับโคเลสเตอรอล
- ธาตุสังกะสี 31.9 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน สร้างคอลลาเจน รักษาสิว ป้องกันผมร่วง กระตุ้นรากผม
- ธาตุเหล็ก 13-18 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ช่วยเสริมสร้างพลังงานในร่างกาย เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และเอนไซม์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ออกซิเจนในร่างกายและสมอง
- วิตามินอี 678 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ช่วยชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณลดโอกาสเกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจทำให้ปอดทำงานดีขึ้น
- วิตามินบี1 0.42 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร รวมทั้งป้องกันเหน็บชา
- เบต้าแคโรทีน 63 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ช่วยชะลอความแก่ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ช่วยบำรุงสายตา
- ลูทีน 84 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม บำรุงการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงตา
- โพลิฟีนอล 113.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทำลายฤิทธิ์ของอนุมูลอิสระป้องกันโรคมะเร็ง
- แทนนิน 89.33 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แก้ท้องร่วง แก้บิด สมานแผล
- แกมมา โอไรซานอล 462 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม เส้นใยอาหาร มีอยู่ปริมาณมาก มีส่วนช่วยในการขับถ่าย และสุดท้ายคือ สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารที่พบมากในข้าวไรซ์เบอร์รี่ ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็งได้
"ข้าวไรซ์เบอร์รี่" ที่เราปลูกเองนี้ เป็นข้าวสุขภาพที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง จะเห็นว่าเป็นที่นิยมรับประทานมากในหมู่ผู้รักสุขภาพ สำหรับในการปลูก เราทำด้วยวิธีการเกษตรอินทรีย์ ได้มีการนำปุ๋ยมูลไส้เดือนมาใช้ในการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้ การปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ต้องใช้ความปราณีตในการปลูกมากทำให้มีราคาสูงแม้จะได้ผลผลิตไม่มากก็ตาม (ประมาณ 400
กิโลกรัมต่อไร่)
ประโยชน์ทางโภชนาการ มีดังนี้
1. ผู้สูงวัย ซ่อมบำรุงระบบประสาท, ระบบการมองเห็น, สร้างเสริมระบบหมุนเวียนโลหิตและชะลอความแก่
2. หญิงตั้งครรภ์ มีสารโฟเลต
ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่ในเด็ก มีน้ำตาลต่ำช่วยควบคุมน้ำหนักและมีธาตุเหล็กสูง
ซึ่งจำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์
3. ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคโคเลสเตอรอล เป็นข้าวที่มีน้ำตาลต่ำกว่าปกติ จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานและมีเส้นใยอาหาร (Fiber)
ช่วยลดระดับไขมันในเลือดและใช้ควบคุมน้ำหนัก
ช่วยระบบขับถ่าย
4. ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง เป็นข้าวที่มีธาตุเหล็กสูง
หากผู้ป่วยโลหิตจางรับประทานอยู่เป็นประจำ จะได้รับธาตุเหล็กตามธรรมชาติ
ซึ่งจะช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น